บริการกำจัด ด้วยอาหารหนูสมุนไพร ปลอดภัยสำหรับมนุษย์ และสัตว์เลี้ยง
บริการให้คำปรึกษาและสำรวจพื้นที่ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
เมื่ออยู่บ้าน คุณเคยเจอปัญหานี้ไหม - ได้ยินเสียงบนผ้า - ได้กลิ่นฉี่หนู ขี้หนู - ขนมบนโต๊ะ โดนหนูแทะ - มุ้งลวด โดนหนูกัดเป้นรู - เฟอร์นิเจอร์เสียหาย โดนหนูกัดทำลาย Ratterminator ช่วยคุณได้ กำจัดหนูออกจากบ้าน โดยใช้สมุนไพร อย่าให้หนูเข้าในบ้าน พร้อมปัญหา และโรคร้ายที่จะตามมา โทรปรีกษาฟรี สำรวจฟรี ได้ที่ 081-344-0968

 เครื่องใช้ไฟฟ้าพัง

เพราะหนูกัดสายไฟ ใครเจอบ้าง!!
เหตุเกิดจากปล่อยให้บ้านมี หนูวิ่งพล่านไปทั่ว
เสียทั้งค่าซ่อม และอาจโดนไฟดูด
จนเป็นอันตรายถึงชีวิต มันคุ้มรึเปล่า?
มาดูแลให้บ้าน ปราศจากเชื้อโรค
พร้อมป้องกันข้าวของเสียหาย
ด้วยการ ตรวจหาหนูและกำจัดด้วยวิธีธรรมชาติกันดีกว่า

ติดต่อสอบถามที่ 081-344-0968

#กำจัดหนู #ไล่หนูออกจากบ้าน #ไล่หนูถาวร #จัดการหนู



ข้อแตกต่างกำจัดหนูด้วยสมุนไพร กับสารเคมี


กำจัดหนู ด้วยอาหารหนูสมุนไพร
กำจัดหนู ด้วยเหยื่อเคมี
# ปลอดภัย 100% สำหรับมนุษย์ และสัตว์เลี้ยง # สารเคมี เป็นอันตรายต่อมนุษย์ และสัตว์เลี้ยง ก่อให้เกิดโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง, ไมเกรน, ภูมิแพ้ ฯลฯ
# หนูตายใน 7-10 วัน (หนูตายในบ้านน้อย) # หนูตายในทันที
# ไม่มีสารพิษตกค้างในบ้าน อาคารที่พักอาศัย # มีสารพิษตกค้าง

RAT TERMINATOR บริการกำจัดหนู ด้วยอาหารหนูสมุนไพร โทร. : 081-3440968

สารพัดวิธีกำจัดหนูแบบไม่ต้องฆ่าแกงกัน เพื่อบ้านสวยๆของเรา

       "หนูบุกบ้าน" คงเป็นปัญหาที่หนักอกหนักใจเจ้าของบ้านทุกๆคนอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะหนูเป็นเครื่องหมายของความสกปรก น่าเกลียด น่ากลัว และที่สำคัญทำให้บ้านสวยๆของเราต้องมัวหมองไปด้วย ครั้งจะฆ่าจะแกงกันก็ดูจะโหดร้ายไปหน่อย กลัวชาติหน้าต้องเกิดมากลายเป็นหนูชดใช้กรรมกันอีกแล้วจะมีวิธีกำจัดหนูได้อย่างไรโดยที่ไม่ต้องมีการเสียเลือดเสียเนื้อกัน ไม่ต้องกังวลไปครับวันนี้ผมมีวิธีกำจัดหนูแบบที่เราไม่ต้องฆ่ามันให้ตาย เพียงแต่เป็นการขับไล่มันออกไปให้ออกไปจากบ้านเรามาฝากกัน                                                                                                                     


1. จัดบ้านให้ดูโล่ง ไม่มีจุดซอกหลืบหรือลับตา

       เริ่มจากวิธีง่ายๆเบสิคๆกันก่อนครับ ก็แค่จัดบ้านของเราให้ดูโล่งให้มีแต่เฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเท่านั้น หลีกเลี่ยงจุดอับ จุดบอด ซอกหลืบต่างๆภายในบ้าน เพราะที่ส่วนนั้นจะเป็นที่ที่น้องหนูชอบอาศัยอยู่เป็นที่สุด



2. เปิดไฟให้สว่าง

       หนูชอบทำอะไร ลับๆ ล่อๆ โดยเฉพาะในที่มืดๆนั้นชอบนักแล ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็เปิดไฟให้สว่างๆกันไปเลยเอาให้หนูแสบตามันจะได้ไม่กล้าเข้ามาบ้านของเราอีก วิธีกำจัดหนูวิธีนี้เกิดจาการทดลองครับ ได้ผลจริง แต่เปลืองค่าไฟครับ เอาไว้ใช้ในเวลาที่จำเป็นจริงๆครับ เพราะถ้าใช้บ่อยๆจนครับ



3. เก็บอาหารในที่มิดชิด

       การที่หนูเข้ามาในบ้านของเราก็เพราะข้ามาหาอาหารกินนี่แหละครับ เพราะฉะนั้นเราก็ควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลมโดยการเก็บของกินภายในบ้านอย่างมิดชิด เก็บในที่ที่คงทนแข็งแรง เพื่อป้องกันการบุกปล้นเสบียงของเจ้าหนูใจโหด รวมไปถึงควรเก็บทำความสะอาดเศษอาหารที่เหลือทิ้งเป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยป้องกันการรุกรานของหนูได้ดีอีกวิธีหนึ่ง (แต่ให้ทำจริงๆมันยากนะ)



4. ปิดทางเข้าบ้าน

       ที่บอกให้ปิดทางเข้าบ้านนี่ไม่ได้ให้ปิดทางเข้าบ้านของเรานะครับ แต่ให้ปิดอุดรูรั่วตามส่วนต่างๆของบ้านให้ดี เช่น รอยต่อระหว่างกระเบื้องหลังคา รอยแยกบริเวณฝ้าเพดาน รูกำแพง ค้นหาจุดบกพร่องเหล่านี้ให้เจอ เพื่อป้องกันการเข้ามาของหนูที่ไม่ได้รับเชิญ (ลำพังที่อยู่ในบ้านก็รับมือไม่ไหวแล้ว)



5. น้ำมันก๊าซ

       หาซื้อน้ำมันก็าซมาใส่ถ้วยๆเล็กๆ แล้ววางไว้ตามจุดต่างๆของบ้าน หนูมันจะเหม็นกลิ่นน้ำมันที่ระเหยออกมาและจะไม่เข้าใกล้บริเวณนั้นอีกเลย เป็นวิธีที่ได้ผลดีครับ แต่ข้อเสียคือไม่ใช่แค่หนูที่เหม็นเท่านั้น คนอย่างเราก็เหม็นด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นวิธีกำจัดหนูวิธีนี้จะเหมาะกับบริเวณที่เราไม่ค่อยได้ใช้งาน เช่น ห้องเก็บของ ซะมากกว่า แต่ถ้าทนได้ก็ดีครับ



6. ลูกเหม็น

       หลักการก็จะคล้ายๆกับน้ำมันก๊าซ หนูมันไม่ชอบกลิ่นมันก็ไม่เข้าใกล้ แต่ใช้ลูกเหม็นจะสะดวกกว่าหน่อย เพราะมันเป็นเม็ดๆก็แค่จับโยนไปที่ที่เราต้องการป้องกันการรุกรานจากหนูเป็นจุดๆไป เดี๋ยวมันก็จะระเหิดไปเอง ส่วนกลิ่นก็ไม่แรงเท่าน้ำมันก๊าซก็น่าจะพอทนกันได้ ยิ่งใครที่เจอปัญหาหนูวิ่งอยู่บนฝ้าเพดาน จับลูกเหม็นโยนขึ้นไปสัก 4-5 เม็ดรับรองไม่นานเงียบสนิท



7. น้ำยาไล่หนูสมุนไพร

       ก็หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป เป็นน้ำมาพร้อมกับหัวฉีดใช้ฉีดตามจุดที่หนูชอบมา ข้อดีคือไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์เพราะสกัดมาจากสมุนไพร เช่น กระเพรา สะระแหน่ มะกรูด แต่ข้อเสียอาจจะใช้ได้ในระยะสั้น และถ้าต้องใช้ในที่กว้างๆหลายๆจุดก็อาจจะเปลืองงบประมาณสักนิดนึง 



8. ดักด้วยกรง

       วิธีเบสิคที่หลายๆคนก็คงคิดถึงกันอยู่แล้ว ก็ซื้อกรงสำหรับดักหนูมา แล้วก็เอาอาหารเข้าไปล่อ พอติดกับก็เอาไปปล่อยไกลๆบ้าน ข้อดีคือไม่ต้องฆ่าหนูทิ้ง และเวลาที่หนูโดนจับมันก็จะปล่อยกลิ่นออกมาเหมือนใช้เตือนเพื่อนว่าอย่าเข้ามาแถวๆนี้อีก หนูมันก็จะหายไปจากบริเวณรอบๆกรงไปที่ใหม่แทน ข้อเสียคือเอาไปปล่อยแล้วมันก็ไปเข้าบ้านคนอื่นต่ออีก แล้วมันอาจจะไปเจอหนูเจ้าถิ่นแถวนั้นทำร้าย สุดท้ายก็ตายอยู่ดี (อย่าลืมว่าเราก็มีส่วนรู้เห็นด้วยนะครับ)


อ้างอิงจาก
เขียนโดย deeday23 
http://homeenrich.blogspot.com/2013/02/how-to-get-rid-of-mice.html

การควบคุมกำจัดหนู



       หนูเป็นสัตว์ค่อนข้างฉลาด เคลื่อนตัวรวดเร็ว หลบหลีกอันตรายได้เก่ง และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ทั้งยังแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว หนูอายุประมาณ 3 เดือนสามารถผสมพันธุ์ ตั้งท้องนานประมาณ 19 – 21 วัน และออกลูก ครอกละประมาณ 6 – 10 ตัว มีประสาทรับเสียง กลิ่น และความจำดี ดังนั้นการที่จะป้องกันและกำจัดให้ได้ผลนั้นต้องมีวิธีการที่ดีและถูกต้อง ซึ่งมีแนวทางดำเนินการใหญ่ ๆ 2 วิธีดังนี้ คือ                                                                                

1. การปรับปรุงสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมในอาคารบ้านเรือน
2. การทำลายหนูโดยตรง

1. การปรับปรุงสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมในอาคารบ้านเรือน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมหนูถาวร โดยมุ่งเน้นการกำจัดแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัยของหนูและการป้องกันปิดช่องทางหนูวิ่งเข้าออกบ้านอาคาร ดังมีรายละเอียดวิธีดำเนินการดังนี้
       1.1 การป้องกันไม่ให้หนูเข้าสู่อาคารหรือที่พักอาศัย อาคารที่สามารถป้องกันไม่ให้หนูเข้าได้นั้นจะต้องไม่มีช่องหรือทางเปิดอื่นใดพอที่หนูจะเข้าไปได้ โดยการกรุด้วยตาข่ายหรือสิ่งที่สามารถป้องกันหนูเข้าได้ วัสดุที่ใช้ควรป้องกันการกัดแทะของหนูได้ เช่น คอนกรีต อิฐ หิน เหล็ก หรือกระเบื้องหนา ๆ สำหรับประตูไม้นั้นตามขอบและมุมของด้านล่างควรหุ้มด้วยโลหะเพื่อป้องกันหนูแทะ
       1.2 การรวบรวมและกำจัดมูลฝอย จะช่วยทำลายแหล่งอาหารและที่พักอาศัยของหนู เพราะมูลฝอยเปียกแหล่งอาหารของหนู หนูชอบคุ้ยเขี่ยกิน ส่วนมูลฝอย
แห้งหนูใช้ทำรังเพื่อเป็นที่อาศัย จึงควรเก็บมูลฝอยในที่รองรับที่ทำด้วยวัสดุแข็งแรง ใช้งานได้ดี ไม่รั่วซึม มีฝาปิดมิดชิด ป้องกันหนูและสุนัขได้ หรือเก็บมูลฝอยใส่ถุงดำก่อนนำไป
กำจัด และจะต้องทำความสะอาดไม่ให้มีเศษอาหาร หรือกลิ่นอาหารอยู่ ท่อน้ำทิ้งไม่ควรมีเศษอาหารค้างทิ้งไว้ ควรทำความสะอาดท่อน้ำทิ้งไม่ให้อุดตัน
       1.3 การเก็บพวกอาหารแห้ง การเก็บอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมให้ปลอดภัยจากหนู จะเป็นการช่วยลดปริมาณแหล่งอาหาร และที่อยู่อาศัยของหนูได้อย่างมาก วิธีการที่เหมาะสมควรวางไว้ในที่ยกพื้น ขาโต๊ะสูงจากพื้นอย่างน้อย 12 – 18 นิ้ว โดยไม่ควรวางชิดข้างฝาและไม่ควรซ้อน ๆ กันจนถึงเพดาน เพราะหนูชอบวิ่งตามแนวข้าง
ฝา บริเวณพื้นด้านที่มีฝาผนังควรทาสีขาวเป็นแนวยาวตลอดฝาผนังทั้งห้อง โดยให้มีความกว้าง 6 นิ้ว เพื่อใช้ประโยชน์ในการตรวจร่องรอยต่าง ๆ ของหนูและสะดวกในการทำความสะอาด

2. การทำลายหนูโดยตรง มีอยู่หลายวิธีคือ
       2.1 วิธีกล เช่น ใช้กรงดัก กับดัก หรือกาวดัก การวางกับดักหรือกาวดักหนูควรวางไว้ที่ที่หนูมาหาอาหาร ทางเดินของหนู โดยวางชิดกับฝาผนังหรือวางซ้อนตามกองอาหาร สำหรับอาหารที่ใช้เป็นเหยื่อล่อควรเปลี่ยนอยู่เรื่อย ๆ
       2.2 การใช้สารเคมี เช่น การวางเหยื่อพิษ ต้องระมัดระวังการใช้ให้มาก โดยใช้ตามเอกสารคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และเหยื่อพิษที่ใช้ควรเป็นชนิดตายช้า หนูกินครั้งเดียวจะไม่ตายจะต้องกินซ้ำ ๆ หลายครั้ง จึงจะมีสารเคมีจะสะสมอยู่ในตัวหนู ทำให้เลือดไม่แข็งตัว หรือทำลายวิตามินในเลือด ทำให้หนูเลือดตกในและตาย
       2.3 การใช้อาหารหนูที่ทำมาจากสมุนไพร ซึ่งกำลังได้รับความนิยมแพร่หลาย ซึ่งมีทั้งขับไล่หนู และสามารถกำจัดหนูได้โดยตรง ซึ่งสมุนไพรจะปลอดภัย สำหรับมนุษย์ และสัตว์เลี้ยง
       2.4 การใช้สิ่งมีชีวิตช่วยควบคุม โดยเลี้ยงแมว สุนัข ฯลฯ

แหล่งที่มา
กรมอนามัย

10 วิธีไล่หนูออกจากบ้านโดยไม่ต้องฆ่า


หลายบ้านอาจจะเคยได้ยินเสียงร้องจี๊ดๆ หรือเสียงฝีเท้าวิ่งไป-มาอยู่บนฝ้าเพดาน และอาจจะมีการทิ้งร่องรอยน่าสงสัยเอาไว้ให้ไม่สบายใจอยู่บ้าง ก็คงต้องลองสำรวจดูสักหน่อยแล้ว ว่าบ้านของคุณเข้าข่ายมี "หนู" อพยพกันมาอาศัยอยู่บ้างหรือไม่ และถ้าหากพบว่าภายในบ้านมีครอบครัวหนูมาอาศัยอยู่แล้ว ก็คงต้องมองหาวิธีไล่หนูกันสักหน่อยใน 10 วิธีไล่หนูออกจากบ้านโดยไม่ต้องฆ่า                                                                                                                                                                                                                     

10. กำจัดแหล่งอาหาร

การจัดการบ้านให้สะอาดหมดจด ไม่มีเศษอาหารตกค้าง จะเป็นการดีที่ทำให้หนูมองข้ามบ้านของคุณไปได้ง่ายๆ เนื่องจากแหล่งอาหารของหนูถูกกำจัดจนหมดสิ้น ขืนอาศัยอยู่ในบ้านคุณต่อไปก็คงอดตายกันทั้งครอบครัวแน่ๆ จากนั้นลองจัดบ้านให้โล่งและไม่มีมุมอับ จะได้หมดที่ซ่อนตัวของครอบครัวหนูด้วยจ้า

9. ปิดทางเข้า

ลองสำรวจรอบๆ บ้านดูสักหน่อย ว่ามีจุดไหนบ้างที่หนูสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ เช่น ซอกเล็กซอกน้อยบนหลังคา, รอยแยกบริเวณฝ้าเพดาน, รูกำแพง, ประตู-หน้าต่างห้องครัว หรือท่อน้ำ เป็นต้น แล้วจัดการปิดรอยรั่วเหล่านั้นให้หมดสิ้น อย่างน้อยก็เป็นการป้องกันไม่ให้หนูสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ง่ายๆ

8. ทรายแมว

หากบ้านไหนไม่อยากเลี้ยงแมวให้วุ่นวาย ทางแก้อีกวิธีก็คือลองหาทรายแมว ที่แมวฉี่ใส่เอาไว้แล้ว โดยอาจขอจากเพื่อนบ้านที่เลี้ยงแมวก็ได้ แล้วนำทรายแมวใส่ถุงผ้า ไปวางไว้ใต้เพดาน หรือบริเวณที่หนูเพ่นพ่าน หนูจะหลอนกับกลิ่นฉุนจากฉี่ของโจทก์เก่า จนไม่อยากย่างกรายผ่านมาอีกเลย แต่ทางที่ดีเลือกวางเฉพาะจุดดีกว่านะคะ ไม่อย่างนั้นคุณคงจะฉุนจนมึนตามหนูไปแน่ๆ

7. ต้นยี่โถ

เป็นวิธีง่ายๆ ที่หลายบ้านนิยมทำกันมานาน ยิ่งโดยเฉพาะในปัจจุบันที่เทรนด์เลี้ยงแมวกำลังมาแรง ถ้าคุณเป็นครักสัตว์ แค่เลี้ยงแมวติดบ้านเอาไว้สักตัว แมวก็จะกำจัดโจทก์เก่าอย่างหนูให้หมดไปอย่างรวดเร็ว เพราะแค่หนูมองเห็นและได้กลิ่นแมวที่เลี้ยงไว้ ก็คงเตรียมเก็บข้าวเก็บของเผ่นออกจากบ้านแล้วล่ะจ้า

6. สมุนไพรไล่หนู

ปัจจุบันมีสมุนไพรไล่หนูขายกันอยู่ทั่วไป สามารถหาซื้อได้ง่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต โดยน้ำยาไล่หนูเหล่านั้น ถูกสกัดขึ้นจากสมุนไพรไทยๆ อย่าง กะเพรา, สะระแหน่ หรือใบมะกรูด เป็นต้น ซึ่งข้อดีคือไม่มีพิษร้ายแรง และไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ แต่ข้อเสียคือมักมีอายุการใช้งานที่สั้น กลิ่นจางไว ทำให้ต้องใช้ในปริมาณมาก

5. กรงดักหนู

วิธีง่ายๆ ที่นิยมใช้กันมานาน เพียงแค่ซื้อกรงดักหนู แล้วนำอาหารหรือเหยื่อล่อหนูใส่เข้าไป จากนั้นเมื่อหนูวิ่งเข้าไปในกรงแล้ว กรงก็จะปิดลง เราก็แค่นำหนูในกรงไปปล่อยไว้ให้ไกลบ้านมากที่สุด และต้องไกลจากบ้านคนอื่นด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นจะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้านแทน ซึ่งเทคนิคในการวางกรงดักหนูก็คือ ให้วางมากกว่า 1 กรง และวางให้หันหลังชนกัน หนูจะได้เข้ามาติดกับได้ทั้งสองทาง อีกทั้งถ้ายิ่งวางติดกำแพงได้ก็ยิ่งดี เนื่องจากหนูมักวิ่งลัดเลาะแถวๆ ริมกำแพงมากที่สุด และที่สำคัญเมื่อใช้กรงเสร็จแล้วให้ล้างจนสะอาดทุกครั้ง เพราะกลิ่นของหนูตัวเดิมจะทำให้หนูตัวใหม่ไม่เข้าใกล้กรงจ้า

4. ประทัด

นอกจากกลิ่นเหม็นแล้ว หนูก็ยังเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจพอสมควร ดังนั้นหากอยากไล่หนูให้แตกกระเจิง ลองซื้อประทัดมาจุดใกล้ๆ รังหนู เพื่อให้ครอบครัวหนูตกใจกับเสียงประทัดจนต้องอพยพกันออกไป แต่การจุดประทัดก็ต้องใช้ความระมัดระวัง ทั้งตัวผู้จุดเองและอย่าไปโยนใส่ตัวหนูโดยตรง ไม่อย่างนั้นคงเป็นภาพที่สยองขวัญน่าดู

3. เปิดไฟให้สว่าง

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายแสนง่าย เพราะแสงไฟจะทำให้หนูแสบตา และไม่กล้าออกมาแสดงตัวมากนัก ซึ่งเมื่อไฟยังสว่างอยู่หนูก็จะกล้าๆ กลัวๆ ที่จะออกมาคุ้ยหาอาหาร หรือแทะข้าวของต่างๆ ให้พังเสียหาย ซึ่งผลที่ตามมาอาจจะต้องแลกด้วยค่าไฟที่เพิ่มขึ้นจนน่าใจหายอยู่เหมือนกัน

2. ลูกเหม็น

กลิ่นของลูกเหม็นแม้จะไม่รุนแรงเท่าน้ำมันก๊าด แต่ก็เป็นกลิ่นที่ไม่รัญจวนใจนัก หนูทั้งหลายจึงไม่ค่อยสบอารมณ์กับกลิ่นของลูกเหม็นสักเท่าไหร่ หากนำลูกเหม็นไปวางไว้ในจุดที่คิดว่าหนูจะวนเวียนอยู่ เช่น ใกล้ถังขยะ ฝ้าเพดาน หรือมุมอับภายในครัว เท่านี้หนูก็จะเบื่อหน่ายกับกลิ่นจนอยากย้ายบ้านหนีไปเลย

1. น้ำมันก๊าด

ไม่บอกก็รู้ว่า น้ำมันก๊าด มีกลิ่นรุนแรงขนาดไหน เพราะแม้แต่คนที่สูดดมเข้าไปมาก ๆ ก็ยังแอบเวียนหัวอยู่เหมือนกัน นับประสาอะไรกับหนูตัวเล็กๆ เมื่อเจอเข้ากับกลิ่นของน้ำมันก๊าด รับรองว่าเจ้าหนูทั้งหลายจะเข็ดขยาดจนไม่อยากอยู่ในบ้านหลังเดิมอีกต่อไปเลยล่ะ วิธีการก็แค่เทน้ำมันก๊าดใส่ถ้วยเล็กๆ ไปวางไว้ตามจุดที่คาดว่าหนูอาศัยอยู่เท่านั้นค่ะ หรือจะวางไว้กับแหล่งอาหารของหนูก็ได้ แต่ควรระวังอย่าใช้ในบ้านที่มีเด็ก และต้องหมั่นเปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อระบายกลิ่นบ้างนะคะ และสามารถเปลี่ยนเป็นน้ำมันสน หรือน้ำมันกลิ่นฉุนอื่นๆ ก็ได้

แหล่งที่มา http://www.toptenthailand.com
เครดิต http://www.kapook.com

 

Copyright @ 2013 RAT TERMINATOR บริการกำจัดหนู ด้วยอาหารหนู ปลอดภัยสำหรับมุนษย์ และสัตว์เลี้ยง ปลอดภัยจากสารเคมี.